ลูกโม่ 11 มม. ตัวเบาสุด สมิธ แอนด์ เวสสัน โมเดล 325 PD


Loading...

ปืนลูกโม่โครงใหญ่ใช้ระบบเปิดโม่ออกข้างกระบอกแรกของสมิธฯ คือรุ่น .44 แฮนด์ อิเจ็คเตอร์ (.44 Hand Ejector) เริ่มผลิตในปี ค.ศ. 1907 ที่ตั้งชื่อเรียกเช่นนี้เพราะปืนลูกโม่สมิธฯ ที่ขายอยู่เดิมเป็นแบบ “หักคอ” (Top-break) ก้านคัดปลอกทำงานอัตโนมัติเมื่อปลดล็อกหักโครงลงเปิดท้ายโม่ พอเปลี่ยนการทำงานเป็นแบบเปิดโม่ออกข้าง ผู้ใช้ต้องกดก้านคัดปลอกจากด้านหน้าเอง แต่ปืนแบบใหม่ได้เปรียบด้านความแข็งแรงเพราะโครงปืนเป็นชิ้นเดียว ปืนแฮนด์อิเจ็คเตอร์จัดว่าเป็นปืนขายดีของยุคนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่งในปี ค.ศ. 1914 โดยกองทัพอังกฤษสั่งซื้อปืนนี้ในขนาดกระสุน .455 ถึงหกหมื่นแปดพันกระบอก



ทางด้านกองทัพสหรัฐ ที่เปลี่ยนปืนพกประจำการเป็นแบบกึ่งอัตโนมัติของโคลท์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1911 แต่เมื่อเตรียมตัวเข้าสงครามโลกพบว่าโรงงานผลิตปืนให้ไม่ทัน จึงติดต่อสั่งซื้อ ปืนเพิ่มจากสมิธฯ ทางกองทัพไม่เกี่ยงว่าเป็นลูกโม่ แต่กำหนดใช้กระสุนขนาดเดียวกับปืน 1911 สมิธฯ จึงออกแบบปืนโมเดล 1917 ที่กลายเป็นต้นตระกูลของปืนลูกโม่ใช้กระสุนขนาด .45 ACP มีโจทย์สำคัญคือการคัดปลอกกระสุนไม่มีขอบจานท้าย สมิธฯ แก้ปัญหาโดยใช้ตับกระสุน “จันทร์เสี้ยว” (half-mood clip) รวมกระสุนสามนัดไว้ด้วยกัน สองตับได้กระสุนเต็มโม่หกนัด กลายเป็นข้อดีคือบรรจุกระสุนได้เร็วกว่าหยิบใส่ช่องโม่ทีละนัดมาก ใช้งานได้ผลดี ในเวลาเพียงสองปี สมิธฯ ผลิตปืน 1917 แก้ขัดให้กองทัพสหรัฐถึงกว่า 163,000 กระบอก
Loading...



ในปี ค.ศ. 1957 สมิธฯ เริ่มใช้เลขรหัสแทนการตั้งชื่อรุ่น ลูกโม่ทหารขนาด .45 พัฒนาไปเป็นปืนยิงเป้าได้รหัสรุ่นคือ โมเดล 25 ต่อมาในปี ค.ศ. 1988 ทำรุ่นสเตนเลสล้วนกลายเป็นโมเดล 625 และสุดท้ายในปี ค.ศ. 2005 เริ่มใช้โครงปืน “สแกนเดียม” น้ำหนักเบาพิเศษ เรียกว่าโมเดล 325 รุ่นแรกมีอักษร PD ต่อท้าย (Personal Defense) ตามด้วยรุ่น 325 NG (Night Guard : เดลินิวส์ 28 กย. 2556) กับรุ่น 325 TR (Thunder Ranch) ออกขายในปี ค.ศ. 2008



ปืนนายแบบสัปดาห์นี้ คือรุ่น 325 PD ที่จัดว่าเป็นปืนขนาด .45 ที่เบาที่สุด แม้เทียบกับปืนกึ่งออโตฯ ลำกล้องสั้นสามนิ้วโครงอัลลอยตัวเบาที่สุดของสมิธฯ เอง คือโปรซีรีส์ โครงสแกนเดียมก็ยังเบากว่าอยู่ 60 กรัม ที่ 325 PD ทำน้ำหนักตัวได้เบาเป็นพิเศษเพราะใช้โลหะอัลลอยทั้งโครงและโม่ โดยโครงเป็นสแกนเดียม และโม่เป็นไทเทเนียม



การทำงานของ 325 PD เป็นลูกโม่ไกดับเบิล/ซิงเกิล เปิดโม่ออกข้าง โม่จุ 6 นัด ใช้ตับกระสุนได้ทั้งแบบ 2, 3 หรือ 6 นัด กรณีจำเป็นไม่มีตับกระสุนก็สามารถบรรจุตรงเข้าในรังเพลิง ยิงได้ เนื่องจากในโม่มีไหล่ยันปลายปลอกกระ สุน เพียงแต่จะคัดปลอกไม่สะดวก ผิวปืนส่วนโครงเป็นสีดำด้าน ด้านขวาสลักรูปสัญลักษณ์อะตอมของธาตุสแกนเดียม มีอิเล็กตรอน 21 ตัว โม่สีเทา ที่โครงปืนด้านบนส่วนหน้าโม่มีแผ่นเหล็กสอดไว้รับก๊าซร้อน ป้องกันการสึก กร่อนที่จุดนี้ หน้าไกเรียบ มีสลักหยุดไก ศูนย์หน้าใส่แท่งรวมแสงสีแดง ศูนย์หลังปรับได้แบบยิงเป้า แต่ร่องศูนย์บากเป็นรูปตัว V กว้างเพื่อให้เล็งยิงได้เร็ว
มีข้อสังเกตคือ แม้ปืนจะเบามากแต่เนื่องจากตัวค่อนข้างใหญ่ และศูนย์หน้าหลังสูง ทำให้พกซ่อนไม่สะดวก ใช้พกซองด้านนอกจะเหมาะกว่า ความเร็วกระสุนใกล้เคียงกับปืนกึ่งอัตโนมัติยิงจากลำกล้องสามนิ้วครึ่ง.



ข้อมูลสรุป Smith & Wesson 325 PD
ขนาดกระสุน .45 Auto จุ 6 นัด
มิติยาวxสูงxหนา : 193x155x43 มิลลิเมตร
ลำกล้อง 70 มม. (2.75 นิ้ว) เหล็ก สเตนเลส
น้ำหนัก 652 กรัม
แรงเหนี่ยวไก ดับเบิล 5,500 กรัม (12 ปอนด์) ซิงเกิล 1,600 กรัม (3.5 ปอนด์)
วัสดุ โครงสแกนเดียม, โม่ไทเทเนียม
อื่น ๆ มีโมเดล 325 Night Guard โม่สเตนเลส
ลักษณะใช้งาน เฝ้าบ้าน, พกซองนอก/พกใน, ต่อสู้ระยะปานกลาง
ตัวเลือกอื่น Taurus 455 Tracker (โครงกลาง, จุ 5 นัด)

ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช
Loading...