Loading...
ในปี ค.ศ. 1985 กองทัพสหรัฐปลดประจำการปืนพก M1911A1 ขนาด .45 ACP (11 มม.) ที่ใช้งานมากว่า 70 ปี เปลี่ยนเป็นปืน M9 ใช้กระสุน 9x19 มม. หรือที่เรียกกันในอีกชื่อหนึ่งว่า 9 มม. พาราเบลลัม ซึ่งเป็นกระสุนมาตรฐานของกองทัพนาโต้ เป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของปืน “เก้าลูกดก” ส่งผลให้กระสุน 9x19 เลื่อนชั้นขึ้นเป็นขนาดยอดนิยมในตลาดอเมริกัน ปืน M9 ได้ออกโรงครั้งแรกในสงครามอ่าวปี 1990-1991 เมื่อสหรัฐระดมกองกำลังนานาชาติบุกอิรัก สงครามครั้งนั้นเน้นให้เห็นความสำคัญของการใช้กระสุนขนาดเดียวกันในกลุ่มพันธมิตรร่วมรบ
ช่วงเดียวกันนั้นเอง โคลท์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตปืน 1911 ต้นตำรับ ประสบปัญหาภายในจากการบริหารงานผิดพลาด ถึงระดับใกล้ล้มละลายต้องขอพิทักษ์ทรัพย์ ได้ผู้ลงทุนใหม่ ขายสินทรัพย์ลดขนาดลง และตัดสินใจเลิกผลิตปืนหลายรุ่น รวมทั้ง “กัฟเวิร์นเมนท์” 1911 ที่ยืนยงคู่กับบริษัทมานาน เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตรายใหม่ เช่น คิมเบอร์, สปริงฟีลด์ จับตลาดเอกชน ทำปืน 1911 ในรูปแบบที่พัฒนาเป็นปืนแต่งจากโรงงาน (Factory Custom) ขายแข่งกับปืนแต่งพิเศษรายกระบอกที่เน้นฝีมือช่าง ซึ่งปืนโรงงานมีความได้เปรียบที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ผลิตได้ละเอียดประณีตด้วยต้นทุนต่ำกว่า ช่วยให้ปืน 1911 กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ด้วยจุดขายคือเป็นเหล็กล้วน แม่นยำ ทนทาน ซ่อมเปลี่ยนชิ้นส่วนได้ง่ายช่วยให้ใช้งานได้ยาวนาน
เมื่อโคลท์ตั้งหลักได้ ก็กลับมาผลิตปืน 1911 อีกครั้ง เริ่มด้วยรุ่นพื้นฐาน “1991 Series” เน้นความเรียบง่าย บึกบึน เหมือนปืนทหารเดิม ค่อยๆ เพิ่มชื่อรุ่นคลาสสิก เช่น กัฟเวิร์นเมนท์, โกลด์คัพ, คอมมานเดอร์ เป็นต้น และเพิ่มกลุ่มที่แต่งเสริมแนวคัสตอมในชุด XSE เพื่อจับตลาดปืนแข่งรณยุทธ์ ปัจจุบันกล่าวได้ว่าโคลท์ มีตัวเลือกครบ ทั้งในด้านขนาดตัวปืน ความยาวลำกล้อง 5 นิ้ว ลงไปถึง 3 นิ้ว และขนาดกระสุน .45, .38 ซูเปอร์, 9 มม. ครบครัน มีแนวโน้มที่น่าสังเกต คือ มีตัวเลือกในขนาด 9 มม. มากขึ้นตามความต้องการของตลาด
ปืนนายแบบสัปดาห์นี้ ชื่อรุ่นที่สลักไว้บนลำเลื่อนด้านซ้าย คือ GOVERNMENT MODEL ระบุขนาดกระสุน 9 มม. ส่วนด้านขวาสลักว่า COLT RAIL GUN ซึ่งหมายถึงรางรับอุปกรณ์มาตรฐานที่โครงปืนถัดจากโกร่งไกออกไปด้านหน้าใต้ลำกล้อง วัสดุทั้งโครงปืนและลำเลื่อนเป็นเหล็กสเตนเลส แต่งผิวพ่นทรายด้าน โดยปัดเงาเฉพาะผิวเรียบสองข้างลำเลื่อน, ลำกล้องเป็นเหล็กกล้า เกรดยิงเป้าแข่งขัน, ประกับด้ามไม้แกะลายข้าวหลามตัด เว้นบริเวณหัวสกรูยึดประกับอย่างสวยงาม
จุดที่แต่งเสริมจากรุ่นพื้นฐาน คือศูนย์หน้าหลังของ Novak แบบต่อสู้ ฝังจุดขาวสามจุด, ไกแบบยิงเป้าโปร่งสามรู มีสกรูหยุดไก, นกสับแบบห่วงวงรี, หลังอ่อนหางยาวพ้นนก จับได้สูง มีสันกดอุ้งมือให้ทำงานได้แน่นอนขึ้นกว่าแบบธรรมดา, เรือนสปริงนกสับตรงแบบปืนยิงเป้า, ชิ้นส่วนฟิตแน่นระดับ Enhanced Spec เช่นเดียวกับปืนในชุด XSE มีที่แตกต่างจาก XSE คือไม่ใช้แกนสปริงลำเลื่อนแบบยาว เปลี่ยนกลับไปใช้แกนสั้นกับจุกสปริง ซึ่งยอมรับกันว่าเหมาะกับปืนต่อสู้มากกว่า โดยเฉพาะในการใช้งานที่ต้องโดนฝุ่นหรือทราย ตัวสปริงเป็นเส้นกลมใช้สองขดซ้อนช่วยยืดอายุการใช้งาน รางใต้โครงเป็นมาตรฐานทหาร M1913 ติดอุปกรณ์ไฟฉายหรือเลเซอร์ช่วยเล็งได้สะดวกมาก.
Loading...