บลูสั่งพิเศษ 9 มม.ลูกดก Bul SAS II Wind




Loading...


อิสราเอล ประเทศเล็กๆ มีพื้นที่สองหมื่นตารางกิโลเมตร เป็นอันดับที่ 150 ของโลก ประชากรเก้าล้านคน ฉลองความสำเร็จด้านการสำรวจอวกาศในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2019 เมื่อยาน Beresheet ลงถึงพื้นผิวดวงจันทร์ นับเป็นประเทศที่สี่ถัดจาก สหรัฐ รัสเซีย และจีน แต่เป็นรายแรกที่บริษัทเอกชนเป็นเจ้าของยานสำรวจ คือ Israel Aerospace Industries




สังเกตได้ว่า อุตสาหกรรมที่รัฐบาลอิสราเอลสนับสนุน จะใช้ชื่อประเทศอย่างชัดเจน เช่นในวงการปืนมี IWI (Israel Weapon Industries) ที่ผลิตปืนตามสัญญาซื้อของกองทัพ พร้อมกับส่งออกสู่ตลาดโลก อาจเริ่มจากรับจ้างผลิต ติดยี่ห้อลูกค้า แล้วพัฒนาจนถึงขั้นทำตลาดเอง ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับ “บูล” (Bul Armory, ชื่อเดิม Bul Transmark) ที่เป็นบริษัทเอกชนเต็มตัว เริ่มงานในปี 1990 ทำปืนรูปแบบ 1911 ลูกดกติดยี่ห้อ Kimber ก่อนจะขายเองในชื่อ Bul M-5



มาถึงวันนี้ บูลมีพร้อมทั้งเทคโนโลยีและความชำนาญในการผลิตปืนระบบ 1911 มีปืนในแคตตาล็อกเกือบ 40 แบบย่อย เลือกได้ทั้งขนาดโครงปืน ความยาวลำกล้อง ขนาดกระสุน ครอบคลุมทุกการใช้งาน ตั้งแต่พกซ่อน, พกซองนอก ไปจนถึงปืนแข่งขันเต็มรูปแบบ สามารถทำชิ้นส่วนเองได้ทั้งหมด ไม่ต้องสั่งซื้อจากภายนอก ติดยี่ห้อ Bul ทำตลาดเองครบวงจร




ปืนนายแบบสัปดาห์นี้ ชื่อรุ่นคือ SAS II Wind โดยปืนในชุด SAS II มีลักษณะร่วมคือ ใช้ด้ามโมดุลล่าร์ รับซองกระสุนสองแถว ทรงด้ามไม่เหมือน M-5 เดิม แต่ปรับใหม่เหมือนโครง STI ที่หมดอายุคุ้มครองสิทธิบัตรแล้ว ทำตามแบบได้ แต่ชื่อ 2011 เป็นเครื่องหมายการค้าห้ามแอบอ้าง บูลแยกปืน SAS เป็นสองกลุ่มคือ IPSC เป็นปืนแข่ง ลำกล้อง 5 นิ้วเต็ม กับ Tactical เน้นปืนใช้งานพกพา หรือแข่งระบบ IDPA มีความยาวลำกล้องตั้งแต่ 3.15 นิ้ว ถึง 5 นิ้ว




ภายในกลุ่ม IPSC แยกเป็นกลุ่มย่อย Racer ติดคอมพ์ปลายลำกล้อง กับ Standard ไม่ติดคอมพ์ ซึ่ง SAS II Wind จัดอยู่ในกลุ่มหลังนี้ แยกตามลักษณะการแกะลายบนลำเลื่อนได้สามระดับ คือ Standard Limited ใช้หัวกัดปลายกลม แกะร่องแนวตั้งที่ลำเลื่อน, SAW แกะแบบบานเกล็ด สันร่องคม จิกผิวมากกว่าเมื่อออกแรงดึง และรุ่น AIR ร่องด้านหลังเหมือน Limited แต่ด้านหน้าเจาะทะลุทั้งซ้ายขวาและสันลำเลื่อน ให้เห็นลำกล้องเคลือบไทเทเนียมไนไตรด์สีทอง มีผลให้ลำเลื่อนเบาลงกว่าสองแบบแรก และรุ่น Wind ที่เป็นรุ่นสั่งพิเศษ ตัดช่องสามด้านนี้ต่อเนื่องถึงกันในแนวขวาง ได้ลำเลื่อนที่เบาที่สุด ช่วยให้ปืนทำงานได้เร็ว และลดแรงกระแทกโครงเมื่อลำเลื่อนถอยหลังสุด




แม้จะใช้โครงปืนสองแถวแบบรางหน้ายาวตลอด แต่จากการลดน้ำหนักลำเลื่อนทำให้ได้ปืนที่จุดศูนย์ถ่วงต่ำ สมดุลดี คุมปืนง่ายยิงซ้ำได้เร็ว น้ำหนักตัวรวมเพียง 1,180 กรัม เทียบได้กับปืนโครงเหล็กแถวเดี่ยวมาตรฐาน Wind ใช้ลำกล้องปลายหนา ไม่ใช้บูชมีแกนสปริงลำเลื่อนยาวตลอด นกสับโปร่งลดน้ำหนัก ห้ามไกซ้ายขวา แต่งไกจากโรงงาน 3 ปอนด์ ระดับปืนยิงเป้าแข่งขัน มีจุดเด่นเน้นความเป็นปืนระดับคัสตอม คือการติดตั้งศูนย์หลังแบบฝั่งตัวที่ท้ายลำเลื่อน ได้ทั้งความเรียบร้อยสวยงาม และเพิ่มความแข็งแรง.
......................................
ดร.ผณิซวร ชำนาญเวช