Loading...
ปี ค.ศ. 1963 แกสตัน กล็อก (Gaston Glock) เปิดบริษัทเล็ก ๆ ผลิตชิ้นส่วนโพลิเมอร์เป็นอุปกรณ์ใช้ในครัวเรือนทั่วไป สั่งสมความชำนาญในการฉีดพลาสติกหุ้มเหล็ก ได้เครื่องมือที่แข็งแรงทนทาน ทำขายให้กองทัพออสเตรีย เช่น พลั่วสนาม เป็นต้น ด้วยผลงานการผลิตเครื่องมือทางทหารระดับพื้น ๆ นี้ กล็อกจึงได้รับเชิญในปี ค.ศ. 1980 ให้เสนอขายปืนพกตามโครงการจัดหาปืนใหม่ของกองทัพออสเตรีย มีข้อกำหนด 17 ข้อ ครอบคลุมลักษณะตัวปืน, การใช้งาน, ความปลอดภัย, ความทนทาน, การดูแลรักษา และเกณฑ์การทดสอบที่เข้มงวด ถึงขั้นที่เชื่อกันว่าเป็น “ปืนในฝัน” ไม่มีทางที่ปืนของยุคนั้นจะทำได้ครบถ้วนทุกข้อกำหนด ตั้งคะแนนสอบผ่านไว้ที่ 70 เปอร์เซ็นต์
แกสตัน กล็อก เห็นงานท้าทายนั้นเป็นโอกาสครั้งสำคัญ รีบจัดทีมออกแบบปืนตามแนวคิดของตัวเอง ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งปีก็สามารถทำปืนต้นแบบส่งเข้าทดสอบได้ พร้อมกับจดทะเบียนตั้งบริษัท Glock GmbH ในปี ค.ศ.1981 เพื่อผลิตปืนใหม่กระบอกนี้ ใช้เลข 17 เป็นชื่อรุ่น โดยให้เหตุผลว่า เป็นสิทธิบัตรใบที่ 17 ของ กล็อก ซึ่งบังเอิญเท่ากับจำนวนข้อกำหนดของกองทัพ และความจุกระสุนของปืนอีกด้วย
กล็อก 17 ผ่านการทดสอบของกองทัพครบทุกข้อ ได้คะแนนเต็มร้อย รัฐบาลออสเตรียสั่งซื้อลอตแรก 25,000 กระบอก ซึ่ง กล็อก ส่งมอบในปี ค.ศ.1983 และพร้อมกันนั้นก็ทำปืนออกขายในตลาดเอกชน ขยายกิจการ โดยในปี ค.ศ. 1985 ข้ามฟากไปเปิดโรงงานผลิตในสหรัฐ และปี 1988 ตั้งโรงงานประกอบในฮ่องกง ทางด้านผลิตภัณฑ์ จากกล็อก 17 รุ่นเดียว เพิ่ม 18, 19 ในปี 1987 และ ค.ศ. 1988 ตามลำดับ ทั้งสามรุ่นใช้กระสุน 9 พาราฯ เหมือนกัน ความกว้างโครงปืนและลำเลื่อนเท่ากัน ใช้ชิ้นส่วนร่วมกันได้หลายชิ้นช่วยลดต้น ทุนการผลิต มีจุดที่แตกต่างคือรุ่น 18, 19 เป็นปืนขนาดตัว “คอมแพ็ค” ลำกล้อง, ลำเลื่อน, ด้าม สั้นกว่ารุ่น 17 ซองกระสุนสั้นลงตามส่วนเหลือความจุ 15 นัด และรุ่น 18 เป็นปืนพกกล ยิงรัวได้ ไม่ใช่ปืนพกกึ่งอัตโนมัติธรรมดา
จาก 17,18,19 ขนาด 9 มม. กล็อกออกแบบรุ่น 20, 21 โดยขยายโครงปืนและลำเลื่อนใหญ่ขึ้น ยาวขึ้น เพื่อรองรับกระสุน 10 มม. และ 11 มม. (คือ .45 ACP) เทียบกับรุ่น 17 มาตรฐาน มิติส่วนความยาว และความหนาของรุ่นใหญ่เพิ่มขึ้นด้านละ 2 มิลลิเมตร ส่วนสูงเพิ่ม 1 มิลลิเมตร ลำกล้องยาวกว่า 3 มิลลิเมตร ความรู้สึกในการจับด้ามแทบไม่ต่างกัน แต่น้ำหนักตัวปืนต่างกันชัดเจน คือรุ่น 17 (9 มม.) หนัก 710 กรัม, รุ่น 20 (10 มม.) หนัก 870 กรัม และรุ่น 21 (11 มม.) หนัก 830 กรัม ที่รุ่น 20 หนักกว่า 21 เนื่องจากรูลำกล้องเล็กกว่าโดยขนาดภายนอกเท่ากัน เมื่อเจาะรูเล็กจึงเหลือเนื้อเหล็กมากกว่า
ปืนนายแบบสัปดาห์นี้ เป็น กล็อก 21 Gen4 ขนาด 11 มม. หรือ .45 ACP ความจุซองกระสุน 13 นัด บวก 1 ในลำกล้อง ระบบการทำ งานแบบ Safe Action ตามมาตรฐานปืน กล็อก คือจุดชนวนด้วยเข็มพุ่ง ไม่มีนกสับ, เข็มลดครึ่งทางตลอดเวลา ปลอดภัยกว่าเข้าห้ามไก, มีตัวกั้นหน้าเข็มแทงชนวน ถ้าไม่เหนี่ยวไกเข็มจะเดินหน้าไม่ได้, หน้าไกมีลิ้นล็อกไม่ให้ไกเดินถอยหลังด้วยแรงเฉื่อยปืนจะลั่นได้ต้องเหนี่ยวไกเท่านั้น, หลังด้ามถอดเปลี่ยนเพื่อปรับขนาดด้ามใหญ่เล็กได้ ตามต้องการ.