สุดยอดปืนพกอีกหนึ่งกระบอก Sig Sauer P226 เก้าลูกดก เหล็ก + อัลลอยด์


Loading...
สวิตเซอร์แลนด์ ตั้งตัวเป็นกลางไม่เข้าร่วมสงครามโลกทั้งสองครั้ง ที่ทำได้เพราะกองทัพเข้มแข็ง พร้อมรบตลอดเวลา และมีนโยบายว่าต้องพึ่งตนเองได้ในทุกด้าน จากที่เคยใช้ปืนพาราเบลลั่มของเยอรมันเป็นปืนประจำการตั้งแต่ปี 1900 สวิสซื้อแบบปืนฝรั่งเศสมาพัฒนาผลิตเองเป็น P210 อันโด่งดัง (เดลินิวส์ 1 ก.พ. 2514) ใช้งานในกองทัพตั้งแต่ปี 1949 ถึง 1975 เรียกชื่อทางทหารว่า Pistole 49 ตามเลขท้ายปี ปืนที่เข้ามาแทนใช้รหัส Pistole 75 ก็คือ SIG-Sauer P220 ที่ย้ายฐานผลิตไปเยอรมันเพื่อลดต้นทุน และเปิดโอกาสให้ส่งขายในตลาดโลกได้ ไม่ติดข้อบังคับเหมือนเมื่อโรงงานตั้งอยู่ในสวิส





ซิก P220 ทำออกมาในขนาดกระสุน .45 ออโตฯ, .38 ซูเปอร์, 9 พาราฯ และ 7.65 ลูเกอร์ ซองกระสุนเป็นแบบแถวเดี่ยว ต่อมาเมื่อเข้ายุค “เก้าลูกดก” ซิก ปรับแบบ P220 ให้ใช้ซองกระสุนสองแถว จุลูก 9 พาราฯ ได้ 15 นัด เรียกว่า P226 นอกจากขนาด 9 พาราฯ มาตรฐานทหารแล้ว ยังมีขนาด .40 S&W สำหรับตำรวจในสหรัฐฯ และ .357 SIG ที่ใช้ปลอกกระสุน .40 มาบีบคอขวดใช้หัวกระสุนเล็กลง สำหรับงานที่เน้นการยิงระยะไกลออกไป หรือต้องการอำนาจเจาะทะลวงสูงกว่าปกติ ปัจจุบัน P226 เป็นรุ่นขายดีของซิก มีแบบแยกย่อยให้เลือกได้ถึง 26 แบบ




การทำงานกึ่งอัตโนมัติของ P226 เป็นระบบรีคอยล์ (recoil operated) ซึ่งหมายความว่าลำกล้องขัดกลอนกับลำเลื่อนปิดท้ายกระสุน เมื่อกระสุนลั่นหัวกระสุนเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ลำกล้องกับลำเลื่อนจะถอยหลังมาด้วยกัน จนหัวกระสุนพ้นลำกล้องไปแล้วจึงปลดกลอน เปิดท้ายลำกล้องเพื่อคัดปลอก ระบบการขัดกลอนของ P226 ใช้หลักการลำกล้องกระดกตามแบบของเบรานิงก์ ควบคุมจังหวะปลดกลอนด้วยผิวเอียงใต้ลำกล้อง มีจุดที่ ซิก ออกแบบใหม่คือเลิกใช้สันขัดกลอนหน้ารังเพลิง เปลี่ยนเป็นตัวรังเพลิงเองเสริมให้หนา ขัดกลอนเข้ากับช่องสลัดปลอกโดยตรง ซึ่งกลายเป็นมาตรฐานใช้กันทั่วไปในปัจจุบัน


ไกเป็นแบบ ดับเบิล/ซิงเกิล สามารถเหนี่ยวไกยิงได้จากตำแหน่งลดนก ซึ่ง ซิก เป็นรายแรกที่ใช้คันลดนกแทนห้ามไก เมื่อดึงลำเลื่อนป้อนกระสุนขึ้นลำแล้วนกจะง้างค้าง สามารถเล็งยิงได้ หากยังไม่ต้องการยิงก็กดคันลดนกที่อยู่ตรงขอบประกับด้ามด้านซ้าย เหนือปุ่มปลดซองกระสุน นกจะสับลงมาหยุดก่อนถึงท้ายเข็มแทงชนวน ตัวเข็มเอง “ลงสมอ” มีตัวล็อกไม่ให้เดินหน้าจนกว่าจะเหนี่ยวไกเกือบสุด ในด้านระบบความปลอดภัย ปืนซิกตระกูล P22x จัดว่าเพียบพร้อมและใช้งานสะดวกดีมาก



นับตั้งแต่ปี 1984 ที่ ซิก P226 เข้าถึงรอบชิงกับ เบเร็ตต้า 92 ในการคัดเลือกปืนประจำการกองทัพสหรัฐฯ แทน 1911 ของเดิม เบเร็ตต้าได้สัญญาซื้อครั้งนั้นไปก็จริง แต่ P226 ที่แพ้คะแนนแบบเีฉียดฉิวกลับชนะใจคนดู ได้ลูกค้ามากมายจากผลการทดสอบที่โดดเด่น เริ่มด้วยหน่วยรบพิเศษหรือ Navy SEAL ที่เลือกจะใช้ P226 แทนที่จะรับปืนส่วนกลางคือ เบเร็ตต้ามาใช้เหมือนหน่วยอื่น และหลังจากนั้นก็เป็นหน่วยงานด้านความมั่นคงต่างๆ ทั้งฝ่ายทหารและตำรวจมากกว่า 30 แห่งที่เลือกสั่งซื้อปืนรุ่นนี้สำหรับเจ้าหน้าที่ แล้วยังแพร่หลายไปทั่วโลก นับลูกค้าภาครัฐได้ถึง 28 ประเทศ



สำหรับปืนนายแบบสัปดาห์นี้ เป็นรุ่นแรกผลิตก่อนเยอรมันรวมประเทศในปี 1990 ข้างลำเลื่อนยังสลักแหล่งผลิตเป็น W.Germany ใส่ด้ามไม้สวยประณีตกว่าด้ามไฟเบอร์ดำของปืนทหาร บรรจุมาในกล่องบุกำมะหยี่แดง พร้อมซองกระสุนสำรอง เป็นปืนใช้งานแบบมีระดับแต่ไม่ถึงขั้นปืนโชว์ในกล้องไม้ฝากระจก  หลังจาก ซิก เข้าไปตั้งโรงงานในสหรัฐฯ แล้ว ได้เพิ่มแบบย่อยให้ P226 มากมายที่แตกต่างจากรุ่นมาตรฐานนี้ เช่น รุ่นโครงสเตนเลสส์สำหรับงานหนัก รุ่น X-5 ลำกล้อง 5 นิ้วสำหรับยิงแข่ง รุ่น เอลีท ที่ใช้ไกซิงเกิลล้วน และรุ่นพิเศษปลายลำกล้องยื่นยาวทำเกลียวสำหรับติดอุปกรณ์ลดเสียงเป็นต้น โดย P226 รุ่นใหม่จะทำรางรับอุปกรณ์เป็นเนื้อเดียวกับโครงปืนส่วนใต้ลำกล้อง ติดไฟฉายหรือเลเซอร์ช่วยเล็งได้ง่าย



ข้อมูลสรุป SIG 226
ขนาดกระสุน 9 มม. พาราฯ (9x19 mm.) ความจุ 15+1 นัด
มิติ ยาวxสูงxหนา : 196x140x38 มิลลิเมตร
ลำกล้องยาว 112 มม. (3.9 นิ้ว)
น้ำหนัก 965 กรัม พร้อมซองกระสุน (รุ่นโครงสเตนเลสส์ 2,000 กรัม)
แรงเหนี่ยวไก ดับเบิล 4550 กรัม (10 ปอนด์) ซิงเกิล 2000 กรัม (4.4 ปอนด์)
วัสดุ เหล็ก (ลำกล้อง, ลำเลื่อน), อลูมินั่มอัลลอยด์ (โครงปืน)
อื่นๆ มีแยกย่อยหลายรุ่น รวมทั้งขนาดกระสุน .40
ลักษณะใช้งาน ปืนต่อสู้อเนกประสงค์ สำหรับ จนท. ปราบปรามหรือป้องกันตัว
ตัวเลือกอื่น Beretta 92 Centurion, CZ P-02 Omega

ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช
ขอขอบคุณข้อมูลจาก :   dailynews.co.th