ชาโดว์ไลน์ ลูกครึ่งปืนแข่ง


ซีแซด 75 ดั้งเดิม เริ่มผลิตออกขายในปี ค.ศ. 1975 เป็นปืนที่วงการยกย่องว่าดีที่สุดในกลุ่มปืนใช้งานต่อสู้ รวบรวมจุดเด่นของปืนร่วมสมัยหลายยี่ห้อ คือจุกระสุนมากกว่าเบรานิงก์ไฮเพาเวอร์, ไกดับเบิลนุ่มนวลกว่าวอลเธอร์ P.38, ระบบขัดกลอนเหมือน ซิก 210 ที่ขึ้นชื่อว่าแม่นยำที่สุดของยุคนั้น และเลือกออกแบบการทำงานของคันห้ามไกให้เหมือน 1911 คือเข้าห้ามไกแล้วนกง้างค้าง พร้อมให้ปลดห้ามไกยิงนัดแรกแบบซิงเกิลได้ นอกจากขายดีแล้วยังมีผู้ผลิตรายอื่นนำไปเป็นต้นแบบกันอย่างแพร่หลาย


จากโมเดล 75 เดิม ซีแซดเพิ่มตัวล็อกเข็มแทงชนวน (firing pin block) เพื่อความปลอดภัยคือป้องกันปืนลั่นเมื่อตกกระแทกพื้นแข็ง เพิ่มอักษร B ต่อท้ายรุ่นเป็น 75B และเพิ่มโมเดล 85 ที่มีห้ามไกและตัวปลดค้างลำเลื่อนทั้งซ้ายขวา ต่อมาเพิ่มรุ่นคอมแพ็คลำกล้องสั้นกว่าสี่นิ้ว จากนั้นเข้ายุคขยายตัวหลังสิ้นสุดสงครามเย็น โดยในปี ค.ศ. 1998 ซีแซดเปิดบริษั CZ-USA เพื่อนำเข้าปืนสู่ตลาดสหรัฐ จนในที่สุดตั้งโรงงานเอง และซื้อกิจการ แดน เวสสัน ที่มีปืนลูกโม่กับปืนระบบ 1911 พร้อมอยู่ในสายการผลิตด้วย แต่รุ่นสร้างชื่อคือโมเดล 75 ยังเป็นตัวหลักของซีแซด ผลิตจากสาธารณรัฐเช็ก ในแคตตาล็อกล่าสุดเฉพาะรุ่นที่ใช้ชื่อ โมเดล 75 กับ 85 มีให้เลือกถึง 22 แบบย่อย


ปืนนายแบบสัปดาห์นี้ ชื่อรุ่นเป็นทางการคือ CZ 75 Compact Shadow Line อยู่ในกลุ่มย่อย Shadow ที่มีทั้งหมด 4 รุ่น โดยอีกสามรุ่นคือ 75 Shadow, 75 SP-01 Shadow, 75 SP-01 Shadow Line ทั้งสามเป็นรุ่นลำกล้องยาวมาตรฐาน 114 มิลลิเมตร (4.5 นิ้ว) โครงเหล็ก มีคอมแพ็ครุ่นเดียวที่ใช้โครงอัลลอยลดน้ำหนัก เพิ่มความคล่องตัวให้เหมาะกับลำกล้อง 93 มิลลิเมตร จุดที่เหมือนกันของกลุ่ม ชาโดว์ / ชาโดว์ไลน์ ที่เห็นได้จากภายนอก คือ ศูนย์หน้าฝังเส้นรวมแสง ศูนย์หลังต่อสู้ทรงสูง แต่งผิวด้านหลังเหมือนศูนย์ยิงเป้า ด้ามเป็นอัลลอยแบน บางกว่าด้ามโพลิเมอร์ ห้ามไกมีทั้งซ้ายขวา โดยของรุ่น ชาโดว์ จะทำเป็นแป้นยื่นออกให้พักนิ้วโป้งได้ ส่วนพวก ชาโดว์ไลน์ ไม่ทำแป้นยื่น


สำหรับกลไกภายใน ชาโดว์/ชาโดว์ไลน์ ใช้ชุดลั่นไก 75 ดั้งเดิม คือไม่มีตัวล็อกเข็มแทงชนวน ซึ่งมีส่วนช่วยลดน้ำหนักไกได้เล็กน้อย และมีข้อดีอื่น ๆ คือ ลดความซับซ้อน ลดจำนวนชิ้นส่วน เพิ่มพื้นที่หน้าเซียร์ ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ ส่วนด้านความปลอดภัยนั้น โรงงานใช้วิธีเพิ่มสปริงต้านเข็มแทงชนวนให้แข็งขึ้น ทดสอบได้ว่าตกกระแทกพื้นแล้วเข็มวิ่งไม่ถึงจอกชนวน


คอมแพ็ค ชาโดว์ไลน์ จากการใช้วัสดุอัลลอยทำโครงปืน ช่วยลดน้ำหนักตัวให้เบากว่า 75 คอมแพ็คเหล็กล้วนลง 120 กรัม เหลือ 800 กรัม ยังหนักกว่าปืนโครงโพลิเมอร์ รางเต็มมีรางรับอุปกรณ์ใต้โครงส่วนหน้า ด้ามอัลลอย สวยงาม แบนบางเหนี่ยวไกได้ถนัดดี ด้ามสั้นกว่ารุ่นมาตรฐานเล็กน้อย แต่ยังจับได้เต็มมือ ความจุซองกระสุน14 นัด บวก 1 ในลำกล้อง ยังเหนือกว่าไฮเพาเวอร์ ต้นตำรับเก้าลูกดก โดยรวมจัดเป็นปืนต่อสู้ชั้นดี ไกเรียบลื่น ศูนย์ยื่นสูงเน้นเล็งได้เร็วแต่อาจทำให้พกซ่อนในชายเสื้อ ยุ่งยากขึ้นบ้าง.

.............................

ข้อมูลสรุป

ขนาดกระสุน.................9 มม. พาราฯ (9x19 mm.)

ความจุ.........................14+1 นัด

มิติยาวxสูงxหนา............184x128x35 มิลลิเมตร

ลำกล้องยาว.................93 มม. (3.7 นิ้ว)

น้ำหนัก........................800 กรัม

แรงเหนี่ยวไก.................ดับเบิล 5,400 กรัม(12 ปอนด์), ซิงเกิล 2,000กรัม (4.4 ปอน)

วัสดุ............................ เหล็ก, โครงอัลลอย

อื่น ๆ............................ด้ามอัลลอย, ห้ามไกซ้ายขวา

ลักษณะใช้งาน..............พกพา, ต่อสู้ระยะปานกลาง

ตัวเลือกอื่น...................Beretta 92C, SIG P229, HK USP Compact

ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช