เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงทหารนอกราชการนายหนึ่งเสียชีวิต ในข้อหาพยายามชักปืนต่อสู้ตำรวจที่จุดคัดกรองตรวจไวรัสโควิด-19 ในเมืองกีซอน อย่างไรก็ตาม แม่ของเหยื่อ อ้างว่า ลูกชายของเธอเกิดโรคเครียดมานานแล้วหลังการปฏิบัติหน้าที่ระหว่างเกิดเหตุการณ์กลุ่มก่อการร้ายยึดเมืองมาราวี ในปี 2560 ส่วนผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจเมืองกีซอน ระบุชื่อเหยื่อคือ นายวินสตัน รากอส วัย 34 ปี ขณะที่ ตำรวจผู้ต้องสงสัยในการก่อเหตุครั้งนี้ คือดาบตำรวจเอก แดเนียล โฟลเรนโด จูเนียร์ ซึ่งเคยสังกัดสำนักงานตำรวจแฟร์วิว ที่ 5
รายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ในเวลาประมาณ 14.30 น.ของวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา โฟลเรนโด และครูฝึกตำรวจอีก 4 นาย จากหน่วยลาดตระเวนทางหลวง กำลังปฏิบัติหน้าที่ ณ จุดคัดกรองไวรัสบนถนนสายมาลีกายา ไดรว์ เมืองปาซอง ปูติก โดยรากอสปรี่เข้าหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเริ่มตะโกนข่มขู่พวกเขา
เจ้าหน้าที่ขอร้องให้รากอสกลับบ้าน เพราะเขาละเมิดมาตรการกักบริเวณในชุมชนเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสมรณะ แต่เหยื่อพยายามที่จะชักปืนพกคาลิเบอร์ .38 ออกจากกระเป๋าสะพาย ซึ่งกระตุ้นให้ผู้ต้องสงสัยต้องตัดสินใจยิงนายรากอส ภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ พยายามที่จะห้ามตำรวจไม่ให้ยิงเหยื่อแล้ว โดยบอกว่าเขาสติไม่ดี ปล่อยเขาไป แต่ตำรวจนายหนึ่งก็ตอบกลับมาว่า อย่ามายุ่ง ไม่ใช่เรื่องของคุณ เราต้องยิงเขาให้ตาย
อย่างไรก็ตาม พยานที่เห็นเหตุการณ์อีกคนหนึ่ง กล่าวว่า เหยื่อไม่ได้มีปืนอยู่ในกระเป๋าสะพาย หลังจากตำรวจตรวจค้นแล้ว และพบว่า ในกระเป๋ามีเพียงพัดผ่านการกักตัวเท่านั้น เหยื่อถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลคอมมอนเวลท์ และเขาก็เสียชีวิตอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้
เมอร์ลีน แม่ของเหยื่อ กล่าวว่า ลูกชายของเธอ เป็นสมาชิกของกองทัพบกฟิลิปปินส์ ซึ่งปลดประจำการก่อน เนื่องจากประสบปัญหาเป็นโรคเครียดหลังปฏิบัติหน้าที่ในเมืองมาราวี ในช่วงที่กลุ่มก่อการร้ายบุกยึดเมือง ซึ่งเขาต้องทานยาต่อเนื่อง หากไม่ได้ทานยาติดต่อกันหลายวัน ก็จะมีอาการทางประสาท
