ต้องมีเงินเท่าไหร่จึงจะครอบครอง Clot Gold Cup Trophy 2017 .45 Acp ได้


Loading...



ประวัติของปืนกระบอกนี้

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง กีฬายิงปืนได้รับความนิยมอย่างสูงในสหรัฐ โดยสมาคมยิงปืนแห่งชาติ คือ NRA (National Rifle Association) เป็นผู้กำหนดกติกา ให้แข่งยิงปืนสั้นแม่นยำด้วยปืนสามกระบอก คือ ลูกกรด .22 ตัวแทนประชาชน, ปืนชนวนกลาง ตัวแทนตำรวจไม่กำหนดขนาดกระสุน, และ .45 ตัว แทนปืนทหาร ในระยะเริ่มแรกมีปืนลูกโม่ยิงเป้าในชุด มาสเตอร์พีส ของสมิธฯ ทำโมเดล 14, 16, 17, 25 ขนาดกระสุน .22, .32, .38 และ .45 ตามลำดับ ผู้ที่ถนัดปืนลูกโม่สามารถใช้ปืนที่รูปทรงและการทำงานใกล้เคียงกันที่สุดสามกระบอก เพื่อลงแข่งได้ครบ ส่วนผู้ที่ชอบปืนกึ่งอัตโนมัติมักใช้ปืน M1911 แต่งลงแข่งทั้ง .45 และชนวนกลาง โดยเลือกปืน .22 ที่มุมด้ามเท่ากับปืนทหาร เช่น ไฮสแตนดาร์ด กับ สมิธ โมเดล 41 ใช้เพียงสองกระบอกแข่งได้ทั้งสามประเภทเช่นกัน



จากระบบการยิง ช้า-เร่ง-เร็ว จับเวลาเป็นชุดห้านัด โดยชุด เร่ง กับ เร็ว ให้เวลา 20 และ 10 วินาที ปืนกึ่งอัตโนมัติจึงได้เปรียบปืนลูกโม่ชัดเจน ความต้องการปืน 1911 ที่แม่นระดับยิงเป้าจึงเพิ่มอย่างรวดเร็ว ใช้โครงปืนทหาร เปลี่ยนใส่ลำกล้องใหม่กำหนดสเปกพิเศษระดับแข่งขัน ที่เรียกว่า “National Match Barrel” ตอกตัวย่อ NM ใช้ชิ้นส่วนคัดพิเศษใหญ่กว่ามาตรฐาน ค่อย ๆ แต่งทีละชิ้นให้เข้ากันได้พอดี จากปืนทหารสมบุกสมบัน กลายเป็นปืนยิงเป้าความแม่นยำสูงสุด



โคลท์ ที่ยังครองสิทธิบัตรปืน 1911 ทำขายในตลาดเอกชนใช้ชื่อ “กัฟเวิร์นเม้นท์” เห็นความต้องการปืนแข่งเช่นนี้ จึงทำรุ่นพิเศษ ใช้ลำกล้อง NM โครงและลำเลื่อนฟิตแน่นพอดี ติดศูนย์ยิงเป้า และออกแบบเซียร์ใหม่ ลดผิวที่ขบกับนกสับเพื่อให้ไกหลุดคม เพิ่มสปริงช่วยป้อง กันปืนลั่น ทุ่นเวลาการแต่งไกได้มาก ตั้งชื่อรุ่นว่า โกลด์คัพ เนชันแนลแมทช์ อาจกล่าวได้ว่าเป็นปืน “Factory Custom” แต่งพิเศษจากโรงงานกระบอกแรกของวงการ



ในช่วงที่โคลท์ประ สบปัญหาด้านการจัดการจนเกือบล้มละลาย ปืนคุณภาพสูงหลายรุ่นถูกยกเลิก ต่อมาเมื่อตั้งตัวได้จึงค่อย ๆ รื้อฟื้นปืนขายดีในอดีตมาผลิตใหม่ เนื่องจากชื่อ M1911 เป็นชื่อของทางการทหารไม่มีลิขสิทธิ์คุ้มครอง โคลท์จึง พยายามสร้างความแตกต่างโดยตั้งชื่อรุ่นพื้นฐานเป็น 1991 ก็ไม่ติดปากลูกค้าเหมือนชื่อเดิม แต่ “โกลด์คัพ” ที่เป็นเครื่องหมายการค้าของโคลท์ นำกลับมาผลิตใหม่ได้รับการตอบรับอย่างดี



เมื่อระบบการแข่งขันเปลี่ยนไป การยิงแบบรณยุทธ์ได้รับความนิยมมากขึ้น ในปี 2017 โคลท์จึงแยกโกลด์คัพออกเป็นสองแนวอย่างชัดเจน คือ เนชันแนลแมทช์ เหล็กรมดำ สำหรับแข่งเป้านิ่ง กับ โทรฟี เหล็กสเตนเลส สำหรับแข่งรณยุทธ์ จุดที่แตกต่างนอกจากวัสดุ คือ รุ่นโทรฟีเน้นจับสูง ด้วยหลังอ่อนหางยาว และการปาดเนื้อโลหะที่โคนโกร่งไกขึ้นไปเล็กน้อย, เสริมส้นด้ามเป็นบ่อ รับแม็กกาซีนให้บรรจุได้เร็ว, ศูนย์หน้าเพิ่มเส้นรวมแสงสีแดง, นกสับเปลี่ยนเป็นแบบห่วงลดน้ำหนัก, ด้าม G10 สีขาวสลับฟ้า แทนด้ามไม้สีเข้มของรุ่นเนชันแนลแมทช์



โกลด์คัพ โทรฟี สเตนเลส ในรูปแบบล่าสุดนี้ สามารถใช้ลงแข่ง IDPA ในกลุ่มคัสตอมดีเฟนซีฟ (CDP), แข่ง USPSA รุ่น ซิลเกิลสแต็ค และ IPSC รุ่นคลาสสิกโดยไม่ต้องแต่งเติม แม้จะออกแบบให้เป็นปืนต่อสู้ แต่ความแม่นยำจากลำกล้อง NM ก็เทียบได้กับปืนแข่งยิงเป้า และใช้เป็นปืนพกซองนอก หรือปืนเฝ้าบ้านได้อย่างดี.




ราคาปืน Colt Gold Cup Trophy

Colt Gold Cup Trophy 2017 .45 ACP
พิกัด : สิงห์คอนเซ็บ ประมาณ 120,000 บ. (โควต้าเชียงใหม่)
พิกัด : ร้านอื่นๆ ประมาณ 135,000 – 160,000 ครับ (มีทั้งโควต้าเชียงใหม่ และกรุงเทพ)
ราคามือสองอยู่ที่ประมาณ 9 หมื่น ถึงแสนต้นๆ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก : dailynews , thaiammo