Loading...
แซมมวล โคลท์ (Samuel Colt) ออกแบบปืน “ลูกโม่” และเริ่มทำขายเองตั้งแต่ปี ค.ศ. 1836 ขณะอายุเพียง 22 ปี ก่อตั้งบริษัทโคลท์ในปี ค.ศ. 1855 และแม้ว่าตัว แซม โคลท์ เองจะอายุสั้น คือถึงแก่กรรมในปี ค.ศ. 1862 แต่ก็มีผู้รับงานสืบทอดกันมาอย่างดี ส่งผลให้บริษัทโคลท์ เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง กล่าวได้ว่า ในช่วงหนึ่งศตวรรษ ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท จนสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง โคลท์ เป็นผู้นำอุตสาหกรรม มีผลงานโดดเด่นตั้งแต่ยุคปืนดินดำ เช่น ปืนพกแบบลูกโม่ ซิงเกิลแอ็คชั่นอาร์มี (Single Action Army), ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ M1911 และไรเฟิลจู่โจม M16 เป็นต้น
รายได้ส่วนใหญ่ของโคลท์มาจากใบสั่งซื้อภาครัฐ แต่มาเสียจังหวะครั้งสำคัญช่วงปี ค.ศ. 1980 ที่กองทัพสหรัฐกำลังจะเปลี่ยนปืนพกประจำกายทหาร ให้เป็นมาตรฐานเดียวกับ NATO โคลท์มีปัญหาภายในจนคนงานประท้วงหยุดงานในปี ค.ศ.1985 ปีเดียวกับที่ เบเร็ตต้า ชนะประกวดได้ใบสั่งปืนพก M9 เข้าประจำการแทน M1911 โคลท์เสียลูกค้าภาครัฐ และยอดขายจากตลาดพาณิชย์เอกชนไม่มากพอ จึงยื่นขอล้มละลายในปี ค.ศ. 1992 แต่สองปีต่อมาก็ฟื้นฟูกิจการสำเร็จ และจับงานใหญ่อีกครั้ง โดยได้เป็นผู้ผลิตปืนไรเฟิลจู่โจม M4 ที่พัฒนาต่อเนื่องจาก M16 จนถึงปี ค.ศ. 2012 ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย โคลท์เสียงานนี้ให้ FN ที่เข้าไปตั้งโรงงานใหม่ในสหรัฐ จนนำมาสู่การยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ครั้งนี้ โคลท์ให้ข้อมูลว่าโรงงานยังทำงานปกติ และน่าจะปรับโครง สร้างบริหารเสร็จก่อนสิ้นปี
นายแบบของสัปดาห์นี้ คือ โคลท์ ไดมอนด์ แบ็ค ที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นลูกโม่ระดับยอดเยี่ยมกระบอกสุดท้ายของโคลท์ ผลิตในช่วงปี ค.ศ. 1966 ถึง ค.ศ. 1991 เป็นปืนแบบหนึ่งที่ลูกค้ายังอยากได้ แต่โคลท์ไม่บรรจุไว้ในรายการสินค้าที่จะผลิตตามแผนฟื้นฟูกิจการปี ค.ศ. 1992 ปืนเก่าสภาพดีขายได้ในราคาสูงกว่าปืนใหม่ลักษณะเดียวกัน
ไดมอนด์แบ็ค เป็นปืนโครงเล็ก (D-frame) เท่าโคลท์ ดิเทคตีฟ (Detective) โม่หกนัดขนาดเล็กกว่าลูกโม่โครง K ของสมิธฯ ใส่ลำกล้องที่ทำเลียนแบบ ไพธ่อน (Python) โครงใหญ่ สันลำกล้องเป็นหลังสะพาน เจาะโปร่งช่วยระบายความร้อน และฝักหุ้มก้านคัดปลอกทำเต็มถึงปลายลำกล้องช่วยให้สมดุลดี เทียบกับไพธ่อน มีความได้เปรียบคือ น้ำหนักตัวเบากว่า ยิงมือเดียวได้สบายกว่า, โครงเล็กกว่า ทำให้ช่วงไกสั้น เหนี่ยวดับเบิลได้ง่ายกว่า และเนื่องจากเป็นปืน .38 ที่แรงดันในรังเพลิงต่ำ ทำให้ปืนไม่โทรมเร็ว
การแต่งผิว มีให้เลือกคือรมดำเงา และชุบนิเกิล ซึ่งทั้งสองแบบทำได้เรียบ ร้อยดีมาก ความยาวลำกล้องที่พบบ่อยคือสี่นิ้ว ขนาดกระสุนถ้าค้นในแคตตาล็อกอาจพบว่ามี .22 LR, .22 แม็กนั่ม และ .38 แต่ในบันทึกของโคลท์เอง ไม่มีการผลิตขนาด .22 แม็กนั่ม ที่เข้ามาบ้านเรา ทั้ง .22 และ .38 ยิงได้แม่นยำดีมากระดับปืนยิงเป้า.
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช
ข้อมูลสรุป Colt Diamondback
ขนาดกระสุน : .38 สเปเชียล โม่จุ 6 นัด
มิติตัวปืน ยาวxสูงxหนา : 225x135x34 มิลลิเมตร
ลำกล้องยาว : (2.5 นิ้ว)
น้ำหนัก : 1,020 กรัม
แรงเหนี่ยวไก : ดับเบิล 5,900 กรัม (13 ปอนด์); ซิงเกิล 1,350 กรัม (3 ปอนด์)
วัสดุ : เหล็กรมดำ, ชุบนิเกิล
อื่น ๆ : มีรุ่นลำกล้อง 4.1 นิ้ว, 6 นิ้ว และขนาด .22 LR
ลักษณะใช้งาน : ยิงเป้า, พกซองนอก, ต่อสู้ระยะปานกลาง
ตัวเลือกอื่น : Smith M. 15, Taurus M. 66
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : dailynews.co.th