จากสนามรบสู่สนามแข่งโคลท์ โกลด์คัพ


Loading...

ปืนพกกึ่งอัตโนมัติของบริษัทโคลท์ ชื่อรหัส M1911 ตามปี ค.ศ. ที่เข้าประจำการในกองทัพสหรัฐ อาจถือได้ว่าเป็นปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติที่ประสบความสำเร็จสูงสุดตลอดกาล มีใช้ในวงการทหารตำรวจทั่วโลกต่อเนื่องกันมากว่าหนึ่งร้อยปี แม้ว่าสหรัฐจะเปลี่ยนปืนพกหลักในปี ค.ศ. 1985 เป็นเบเร็ตต้า 9 มม. ลูกดก แต่ M1911 ก็ยังมีใช้อยู่ในหน่วยปฏิบัติการพิเศษหลายหน่วย และในภาคเอกชน



โคลท์ผลิตปืนรุ่นนี้อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1912 ในชื่อ ’กัฟเวิร์นเม้นท์ ” (Government) โดยมีการปรับเปลี่ยนในรายละเอียดบ้างเล็กน้อย เพื่อสร้างความแตกต่างให้ผู้ซื้อเลือกได้ตามลักษณะใช้งาน หรือระดับราคาหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง กีฬายิงปืนในรูปแบบยืนนิ่งยิงเป้าวงกลมดำเริ่มได้รับความนิยม สมาคมยิงปืนของสหรัฐ (NRA : National Rifle Association) จัดแข่งปืนสั้นคิดคะแนนรวมสามปืน มีขนาด .22 ตัว แทนปืนชาวบ้าน กับ .45 ตัวแทนปืนทหารเป็นขนาดบังคับ และ “ชนวนกลาง” ไม่กำหนดขนาด นัยว่าเป็นปืนตำรวจ ทำให้มีความต้องการปืนขนาด .45 ที่ยิงแม่นกว่าปืนทหารทั่วไป



 บริษัทโคลท์จึงเริ่มขายปืนแต่งเพื่อยิงเป้าแข่งขัน เรียกว่ารุ่น “เนชันแนลแมทช์” (National Match) ใช้ลำกล้องที่คัดเลือกพิเศษ พร้อมกับขัดผิวชิ้นส่วนชุดลั่นไกให้เรียบลื่น ช่วยให้ไกเบา  ระยะแรกเป็นปืนสั่งทำ  ต่อมาจึงบรรจุเข้าแคตตาล็อกมาตรฐานในปี ค.ศ. 1932 และเริ่มติดศูนย์หลังปรับได้เมื่อปี ค.ศ. 1935ในการเรียกชื่อปืนรุ่นยิงเป้านี้ โคลท์ เพิ่มคำว่า “โกลด์คัพ” (Gold Cup : ถ้วยทอง) หน้า เนชันแนลแมทช์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1957 แต่มาเริ่มสลักอักษร Gold Cup ลง ที่ตัวลำเลื่อนในปี ค.ศ. 1970 ปืนโกลด์คัพ เนชันแนลแมทช์ ช่วงนี้มีลักษณะเฉพาะคือ เรือนสปริงนกสับแบบตรง สันลำเลื่อนเพิ่ม “หลังถนน” แกะลายกันแสงสะท้อน ไกแบบยิงเป้า หน้าไกเซาะร่องละเอียด มีหมุดหยุดไกปรับได้ ศูนย์หลังแบบยิงเป้าปรับซ้ายขวาสูงต่ำผลิตโดยเอเลียซัน (Eliason) ร่องกันลื่นที่ลำเลื่อนเอียงขนานกับแนวด้าม 
Loading...



โกลด์คัพ เนชันแนลแมทช์ ของยุคนี้ได้ชื่อว่าเป็นปืนกึ่งอัตโนมัติขนาด .45 ที่ให้ความแม่นยำสูงสุดบริษัทโคลท์ประสบปัญหาหนักในปี 1985 เมื่อคนงานสมาชิกสหภาพหยุดงานประท้วง ส่งผลกระทบให้คุณภาพปืนโคลท์ตกต่ำกว่ามาตร ฐานเดิมมาก จนบริษัทต้องยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ในปี ค.ศ. 1992 มีการเปลี่ยนผู้บริหารหลายครั้ง ตัดสินใจผิดพลาด เลิกผลิตปืนรุ่นเก่าที่ขายดี ออกแบบปืนแปลกใหม่ แต่ขายไม่ออกหลายรุ่น กว่าจะปรับตัวกลับเข้าที่ได้ก็ล่วงเข้าสหัสวรรษใหม่หลายปีมาถึงวันนี้ 



โคลท์ ผลิตปืนในชื่อ โกลด์คัพ สองรุ่น คือ โกลด์คัพ โทรฟี (Gold Cup Trophy) ใช้วัสดุเหล็กปลอดสนิม  กับชื่อเดิม ๆ โกลด์คัพ เนชันแนลแมทช์ เป็นเหล็กรมดำ สิ่งที่เปลี่ยนไปจากโกลด์คัพของยุค 1970 คือ สันลำเลื่อนเป็นแบบโค้งเหมือนปืน 1911 มาตรฐาน ไม่มีหลังถนน  และศูนย์หลังเป็นของ โบมาร์ (Bomar) เมื่อเปรียบเทียบสองรุ่นนี้ รุ่นโทรฟี จะเหมาะกับการยิงระบบรณยุทธ์ ส่วนเนชันแนลแมทช์เหมาะกับการยิงประณีตมากกว่า คือชิ้นส่วนฟิตแน่นกว่าอยู่บ้าง 



ทั้งสองรุ่นโรงงานใส่สปริงลำเลื่อนที่ลดแรงต้านเพื่อให้เหมาะกับกระสุนยิงเป้า โดยแถมสปริงมาตรฐานมาด้วยหากเจ้าของต้องการใช้กระสุนแรงสูง นอกจากสองรุ่นที่กล่าวนี้แล้ว  อาจมีโกลด์คัพที่ระลึกสั่งทำพิเศษ  เช่น รุ่น US Shooting Team และรุ่นเหล็กปลอดสนิมปัดผิวเงา เป็นต้น

โดยรวม โคลท์ โกลด์คัพ ทุกรุ่น  เป็นปืนกึ่งอัตโนมัติขนาดใหญ่ที่ใช้ได้ทั้งงานต่อสู้และยิงเป้าความแม่นยำเหนือกว่าปืนใช้งานทั่วไป เจ้าหน้าที่ใช้พกซองนอกอาจติดขัดเล็กน้อยที่ศูนย์หน้าสูงและตัดมุมฉากด้านหลัง เป็นปืนที่ขายต่อง่ายราคาไม่ตกเหมาะกับการซื้อเก็บในลักษณะลงทุน.
ข้อมูลสรุป
ขนาดกระสุน    .45 ACP (11 มม.) ซองกระสุน 7 หรือ 8 นัด
มิติ ยาวxสูงxหนา :  210x140x33 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 1,150 กรัม
แรงเหนี่ยวไก 1,800 กรัม (4 ปอนด์)
วัสดุ เหล็กปลอดสนิม / เหล็กรมดำ
อื่น ๆ สปริงลำเลื่อนสองเส้นจากโรงงาน
ลักษณะใช้งาน จนท. พกซองนอก, ยิงเป้า, เฝ้าบ้าน
ตัวเลือกอื่น Kimber Team Match II, Springffiield Limited

ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช 
Loading...