แม็กนั่มพลัส7นัด 6นิ้ว S&W 686-6 Talo Special

Loading...

ปืนลูกโม่ ด้วยรูปแบบการทำงานของตัวปืนที่ดัดแปลงให้ยิงเร็วไม่ได้, จำนวนกระสุนที่จำกัด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ลำกล้องยาวพกซ่อนยาก ไม่เคยอยู่ในข่ายที่จะถูกห้ามเข้มงวด ตัวอย่างคือนายแบบของสัปดาห์นี้ ที่เป็นลูกโม่รุ่นยอดนิยม โมเดล 686 ของ สมิธ ตัวพื้นฐานของรุ่นพิเศษ โปรซีรีส์ SSR ที่ลงในสัปดาห์ที่แล้ว ชื่อรุ่นสลักไว้บนโครงเหมือนกันคือ 686-6 มาพร้อมโม่ 7 นัด โรงงานเรียกว่า Magnum Plus ใส่ด้ามไม้แกะลายพิเศษสำหรับ Talo Distribution เสนอขายในชื่อ Talo Special Edition


สมิธ เป็นต้นตำรับปืนลูกโม่ใช้กระสุน .357 แม็กนั่ม เริ่มจากพัฒนากระสุนจาก .38 สเปเชียล ใช้ปลอกยาวขึ้น เพื่อให้กระสุน .357 ใส่เข้ารังเพลิงของปืน .38 เดิมไม่สุด ปิดโม่ไม่ได้ เพื่อป้องกันการนำกระสุนที่แรงว่านี้ไปใช้ในปืนที่ไม่ได้ออกแบบมาโดยเฉพาะ สมิธเริ่มทำปืน .357 แม็กนั่มโดยใช้โครงใหญ่ (N-frame) คือ โมเดล 27 ตั้งแต่ปี 1935 ต่อมาในปี 1955 เพิ่มรุ่นโครงกลาง (K-frame) คือโมเดล 19 “คอมแบ็ตแม็กนั่ม” เหล็กรมดำ และเพิ่มคู่แฝดเป็นสเตนเลสคือ โมเดล 66 ในปี 1971




โคลท์ คู่แข่งรายสำคัญของสมิธ แต่เดิมไม่คิดทำปืนขนาด .357 แม็กนั่ม หลังสงครามโลกครั้งที่สองยังทำปืน .38 สเปเชียล ใช้โครงใหญ่ของเดิม จนถึงปี 1953 เห็นแนวโน้มความนิยมของกระสุนแม็กนั่ม จึงออกแบบปืนใหม่ใช้โครงขนาดกลาง ติดศูนย์ยิงเป้าอย่างดี ตั้งชื่อรุ่นตรง ๆ ว่า 357 ตามด้วยรุ่นประหยัดคือ Trooper โครงปืนขนาดพอเหมาะถูกใจตลาด คืออยู่ตรงกลางระหว่างโครง N กับ K ของสมิธ แต่มีจุดอ่อนที่ก้านคัดปลอกใต้ลำกล้องคดงอและคลายเกลียวหลุดหายได้ง่าย สองปีต่อมาโคลท์จึงออกแบบ Python เพิ่มฝักหุ้มก้านคัดปลอกยาวตลอดปลายลำกล้อง และหลังสะพานโปร่ง แต่งผิวและกลไกภายในแบบสุดฝีมือช่างของยุคนั้น ส่งผลให้เจ้างูเหลือมขึ้นชั้นเป็นปืนลูกโม่ดีที่สุดของยุคนั้น ลงตัวทั้งสามด้านคือ แม่นยำ สวยงาม ทนทาน


 สิบปีหลังจากเริ่มผลิตโมเดล 66 สมิธ ออกแบบโครงกลางใหม่ คือ L-frame เสนอขายพร้อมกันสี่รุ่น คือ 581, 586, 681, 686 คู่แรกเป็นเหล็กรมดำ คู่หลังเป็นสเตนเลส เลขท้าย 1 ศูนย์ตาย เลขท้าย 6 ศูนย์ปรับได้ ทั้งหมดทำฝักหุ้มก้านคัดปลอกยาวถึงปลายลำกล้องเหมือนไพธ่อน แต่สันปืนเป็น “หลังถนน” ไม่เจาะโปร่ง มิติตัวปืนกล่าวได้ว่า เท่ากับไพธ่อน ถึงระดับใช้ซองปืนร่วมกันได้ ในที่สุดเลิกทำรุ่นเหล็กดำ และศูนย์ตาย เหลือเพียง 686 ที่ทำต่อเนื่องถึงปัจจุบัน โดยเริ่มทำโม่ 7 นัด ในปี 1996


เมื่อใช้ลำกล้อง 6 นิ้ว กระสุน .357 แม็ก นั่ม หัวกระสุน 125 เกรน ทำความเร็วได้ถึง 1,490 ฟุต/วินาที หรือถ้าเป็นหัว 158 เกรน จะได้ความเร็ว 1,280 ฟุต/วินาที ตัวปืนที่หนักกว่า 1,300 กรัม ช่วยลดรีคอยล์ได้ดี ถ้าต้องการซ้อมยิงใช้กระสุน .38 สเปเชียลได้ทุกชนิด ปืนยิงนิ่มนวลดีมาก ให้ความแม่นยำระดับปืนยิงเป้า.